ลาซา แอปโซ
ส่วนสูง : 10-11 นิ้ว
น้ำหนัก : 14-15 ปอนด์ วงจรชีวิต : 12-14 ปี
การจัดกลุ่มพันธุ์ : สุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
ลักษณะเด่น : มีขนยาว หนัก เป็นเส้นตรง หนาและแน่น แต่ไม่เงางาม สีขนเป็นสีทราย สีน้ำผึ้ง สีควันบุหรี่ สีเทาดำ สีดำ สีขาว หรือหลายสีผสมกัน
นิสัย : เป็นสุนัขอารมณ์ดี ไม่ก้าวร้าว ค่อนข้างเงียบเรียบร้อย หากเจอคนแปลกหน้าแรกๆ อาจจะไม่ไว้ใจ แต่สักพักจะค่อยๆ สำรวจและทำความรู้จัก อาจจะเล่นกัดเจ็บๆ กับเด็ก ดังนั้น การนำไปฝึกสอนและให้ได้คุ้นเคยกับเด็กตั้งแต่เล็กจึงมีส่วนสำคัญ การฝึกสอนควรเป็นไปอย่างช้าๆ และให้คำชมเชยเมื่อทำตามคำสั่งการตัดแต่งขนและการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ขนพันกัน หรือจับตัวเป็นก้อน ควรหมั่นแปรงขนให้ทุกวัน การเล็มขนก็ทำได้แสนง่ายโดยตัดให้สั้นลง ควรให้มันได้เดินเล่นใกล้ๆ บ้านทุกวัน
ลักษณะเด่น : มีขนยาว หนัก เป็นเส้นตรง หนาและแน่น แต่ไม่เงางาม สีขนเป็นสีทราย สีน้ำผึ้ง สีควันบุหรี่ สีเทาดำ สีดำ สีขาว หรือหลายสีผสมกัน
นิสัย : เป็นสุนัขอารมณ์ดี ไม่ก้าวร้าว ค่อนข้างเงียบเรียบร้อย หากเจอคนแปลกหน้าแรกๆ อาจจะไม่ไว้ใจ แต่สักพักจะค่อยๆ สำรวจและทำความรู้จัก อาจจะเล่นกัดเจ็บๆ กับเด็ก ดังนั้น การนำไปฝึกสอนและให้ได้คุ้นเคยกับเด็กตั้งแต่เล็กจึงมีส่วนสำคัญ การฝึกสอนควรเป็นไปอย่างช้าๆ และให้คำชมเชยเมื่อทำตามคำสั่งการตัดแต่งขนและการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันไม่ขนพันกัน หรือจับตัวเป็นก้อน ควรหมั่นแปรงขนให้ทุกวัน การเล็มขนก็ทำได้แสนง่ายโดยตัดให้สั้นลง ควรให้มันได้เดินเล่นใกล้ๆ บ้านทุกวัน
ถิ่นกำเนิด : เจ้าสิงโตน้อยมีที่มาจากประเทศทิเบตเมื่อ 800 ปีก่อนคริสตกาล เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในชื่อ ลาซา แอปโซ เมื่อราวศตวรรษที่ 7 เจ้าสิงโตน้อยตัวนี้เป็นที่นิยมเลี้ยงไว้เฝ้าวัดและโบสถ์ของศาสนาพุทธ มันจะเห่าบอกเมื่อมีผู้บุกรุก
ข้อควรระวังเป็นพิเศษ : ไม่เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่
ปัญหาสุขภาพของสายพันธุ์ : โรคเปลือกตาอักเสษ โรคจอรับภาพเสื่อมเรื้อรัง โรคไตตั้งแต่กำเนิด โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน
***สันนิษฐานกันว่า 'Lhasa' น่าจะหมายถึง เมืองหลวงของประเทศธิเบต ในขณะที่ 'Apso' มาจากคำว่า 'abso seng kye' ที่แปลว่า สุนัขเฝ้ายาม หรือไม่ก็มาจากคำว่า 'rapso' แปลว่า คล้ายกับแพะ ซึ่งอาจมี ที่มาจากขนยาวๆ คล้ายกับแพะนั่นเอง อีกชื่อหนึ่งที่ชาวธิเบตมักจะใช้เรียกลาซา แอปโซ คือ สุนัขสิงโต ทั้งนี้อาจเป็น เพราะสีขนน้ำตาลอมทอง ที่คล้ายๆ สิงโตนั่นเอง ใครที่คิดจะเลี้ยงสุนัขตัวนี้ คงต้องรักสุนัขมากๆ และมีเวลาพอสมควร สำหรับการดูแลขน ไม่งั้นขนจะไม่เงางาม และยุ่งเหยิงเสียหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น